บริการเจาะสำรวจดิน ทดสอบดิน
เราพร้อมให้บริการเจาะดินและทดสอบดินให้กับท่านในทุกช่วงเวลาที่ท่านต้องการ เพราะ เราคือ ผู้ชำนาญการทางด้านวิศวกรรมฐานราก วิศวกรโยธาของเราทุกคน มีความรู้ ความสามารถ
ด้านวิศวกรรมปฐพีกลศาสตร์ เพื่อให้คุณลูกค้าทุกท่าน ได้รับผลงานการเจาะสำรวจดินและทดสอบดิน ในลักษณะของการออกแบบกำลังรับน้ำหนักของชั้นดิน ทราบถึงการใช้ฐานรากที่เหมาะสมกับสภาพชั้นดิน
"เราให้บริการเจาะสำรวจชั้นดิน รับเจาะดิน ที่ลูกค้าไว้วางใจ"
บริการทดสอบดิน [ Boring Test Service ]
เนื่องจากดินเบื้องล่างมีความสัมพันธ์กับสิ่งต่าง ๆ มาก ซึ่งส่งผลให้กำลังและคุณสมบัติของดินแตกต่างกันออกไป การเจาะดินเพื่อเก็บตัวอย่างดินมาวิจัย และทดสอบต้องกระทำด้วยความระมัดระวังโดยที่จะต้องให้เกิดความกระเทือนต่อดินที่
จะนำมาทดสอบให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะว่าดินมีความไวตัวมาก เมื่อเกิดแรงกระเทือนก็จะทำให้โครงสร้างของดินเปลี่ยนแปลงได้ ค่าที่วิจัยหรือทดลองได้ก็จะผิดไปจากความเป็นจริง ดังนั้นการเจาะและเก็บตัวอย่างดินจึงต้องมีวิธีการที่เหมาะสมกับงานในการเจาะสำรวจดินในโครงการแต่ละโครงการ การเจาะสำรวจดินกระทำได้โดยใช้เครื่องเจาะ 2 แบบ กล่าวคือ เครื่องเจาะแบบ Motorize System และ Rotary System โดยใช้
หัวเจาะขนาด 100 มิลลิเมตร (4นิ้ว) และเพื่อป้องกันการพังทลายของผนังหลุมเจาะ จำเป้นต้องใส่ปลอกกันดินพัง (Steel Casing) ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 100 มิลลิเมตรลงในชั้นดินอ่อนตั้งแต่ระดับความลึกประมาณ 1.50 เมตรจนถึง3.50เมตร และกระบวนการเจาะที่ใช้ในการเจาะสำรวจเป็นแบบวิธีการฉีดล้าง (Wash Boring)
ทดสอบความหนาแน่นของชั้นดิน [ Field Density ]
การก่อสร้างถนน สนามบิน เขื่อนดิน พื้นที่โรงงาน ฯลฯ จะต้องบดอัดด้วยเครื่องมือต่างๆ ตามชนิดและประเภทของวัสดุที่นำมาใช้ในการก่อสร้าง หลังจากบดอัดได้ที่แล้วก็จะต้องมีการตรวจสอบผลของการบดอัดนั้นว่ามีความแน่นสามารถรับน้ำหนักได้ตามข้อกำหนดที่ได้ ออกแบบคำนวณไว้หรือไม่ เช่น งานชั้นรองพื้น
ทาง (subbase) ชั้นพื้นทาง (base) จะต้องบดอัดให้ได้ 100% งานชั้นดินเดิม และดินถมจะต้องบดอัดให้ได้ 95% การบดอัดนี้จะต้องมีการควบคุมความชื้นในดินและพลังงานที่จะใช้ในการบดอัดให้พอเพียงและประหยัด ถ้าจำนวนเที่ยวที่บดอัดมากเกินไปก็จะสิ้นเปลืองทั้งค่าแรงงานและค่าน้ำมันเชื้อเพลิง แต่ถ้าบดอัดน้อยไปก็จะไม่ได้ความแน่นที่ต้องการจะต้องกลับมาทำงานซ้ำอีก
การหาความแน่นของดิน คือ การหาน้ำหนักของดินในบริเวณที่บดอัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว หารด้วยปริมาตรของหลุมที่ขุดดินออกมา และการที่จะหาปริมาตรของหลุมที่กล่าวนี้ จำเป็นจะต้องวัดหรือใช้วัสดุที่รู้ความแน่น (density) และความถ่วงจำเพาะแน่นอน แล้วไปแทนที่ในหลุมที่ขุดดินขึ้นมา ซึ่งการทดสอบดังกล่าวอาจกระทำได้โดยวิธีใช้ทรายมาตรฐาน (Sand Cone Method) ช่วยในการทดสอบหรือใช้น้ำ (Balloon Density Method) ทั้งสองวิธีนี้ต่างก็อาศัยหลักอันเดียวกัน
บริการทดสอบการรับน้ำหนักบรรทุกของดิน [ Plate Bearing Test ]
ค่ากำลังรับน้ำหนักบรรทุกของดิน (Bearing Capacity) เป็นข้อมูลเบื้องต้นที่ใช้ในการคำนวณ ออกแบบฐานรากอาคาร และสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ รวมทั้งใช้ในการวิเคราะห์การทรุดตัวของดินเมื่อมีน้ำหนักมากระทำ
การทดสอบการรับน้ำหนักบรรทุกของดิน สามารถทำได้ด้วยวิธี Plate Bearing Test โดยทำการทดสอบที่ได้จากการพัฒนารูปแบบและปรับเปลี่ยนวิธีการ และขั้นตอนของมาตรฐาน ASTM D1194-94 เพื่อเป็นข้อมูลที่สำคัญและมีประโยชน์ต่อวิศวกรผู้ออกแบบ
สำหรับโครงการ Wind Farm ตำบลห้วยบง อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา วิศวกรผู้ออกแบบได้กำหนดให้ทำการทดสอบ Plate Bearing Test จำนวน 720 จุด ( PBT1-PBT720 ) ที่น้ำหนักทดสอบสูงสุด 75 ตัน/ตร.ม. ดังรายละเอียดเครื่องมือ วิธีการ และผลการทดสอบ